วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ปัญหาของแท็กซี่ในประเทศไทยพร้อมแนวทางการแก้ไข

        ปัญหาของบริการรถแท็กซี่ในประเทศไทยนั้นมีการพูดถึงมานานมากพอสมควรแล้วซึ่งปัญหาใหม่ก็มีหลายเรื่องด้วยทั้งเรื่องของการไม่ยอมรับผู้โดยสาร เรื่องของการโกงค่ามิตเตอร์ รวมถึงเรื่องของความปลอดภัยด้วย ซึ่งก็มีการพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องเหล่านี้มาอย่างยาวนาน  nax
        เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีแอพพลิเคชั่นอันหนึ่งที่ได้รับความนิยมทั่วโลกชื่อว่า Uber เป็นบริการเรียกรถรับส่งผ่านแอพพลิเคชั่นนั้นเอง ซึ่งคนทั่วไปก็สามารถที่จะนำรถของตัวเองเข้ามาร่วมให้บริการนี้ได้ ซึ่งก็ส่งผลดีต่อคนใช้บริการในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องของความสะดวกสบายเพราะว่าการเรียกรถรับส่งผ่านบริการของ uber นั้นรถจะมารับเราถึงที่เพราะว่ามีระบบของ GPS นำทางมาจะแตกต่างจากการเรียกใช้รถ taxi แบบเก่าที่เราจะต้องเดินออกไปที่ถนนใหญ่เพื่อที่จะโบกรถ ข้อดีข้อต่อมานั้นก็คือเรื่องของค่าบริการที่เราสามารถประมาณได้เลยว่าเราจะจ่ายค่าเดินทางมากน้อยเพียงใด และมีการหักเงินผ่านบัญชีบัตรเครดิตของเราเลย ไม่ต้องทำการจ่ายเป็นเงินสด มีระบบของการให้คะแนนและคำแนะนำหลังจากที่ใช้บริการแล้วด้วยนั้นก็จะทำให้ผู้ขับก็ต้องพยายามที่จะให้บริการแก่ลูกค้าให้ดีที่สุดเพื่อว่าจะได้คะแนนหลังการใช้บริการในระดับที่ดี เพื่อว่าครั้งต่อไปลูกค้าคนใหม่เมื่อเจอว่าเราเป็นคนขับเขาก็จะได้กล้าที่จะใช้บริการแต่ว่าหากมีคะแนนน้อยคนที่จะมาใช้บริการนั้นก็จะไม่กล้าที่จะใช้บริการนั้นเอง  บริการของ Uber นั้นได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่เมื่อนำเข้ามาในประเทศไทยนั้นก็ไม่สามารถที่จะเป็นที่ยอมรับในวงกว้างได้เพราะว่ามีผู้เสียผลประโยชน์จำนวนมากโดยเฉพาะคนที่มีอาชีพขับรถแท็กซี่นั้นเอง และในประเทศไทยคนที่ไม่มีใบอนุญาติให้รับส่งผู้โดยสารแต่ไปรับสังนั้นก็ถือว่ามีความผิด ทำให้บริการ Uber ถึงแม้ว่าเป็นบริการที่ดีมากแต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเพราะว่าคนที่จะมาใช้บริการนั้นก็กลัวที่จะมีปัญหาเช่นเดียวกัน  nax

        ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดนั้นก็น่าจะเป็นวิธีการของแอพพลิเคชั่นรุ่นน้องที่ชื่อว่า grab เพราะว่า grab นั้นเป็นบริการเรียกรถรับส่งเช่นเดียวกันกับ Uber แต่ที่แตกต่างกันนั้นก็คือ grab นั้นจะเรียกแต่รถแท็กซี่เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่เกิดการต่อต้านจากเหล่าบรรดารถแท็กซี่ทั้งหลาย และนอกจากนั้นยังไม่ได้ทำผิดกฏหมายอีกด้วย แนวทางการอยู่รอดของรถแท็กซี่ในอนาคตนั้นก็คือจะต้องเร่งพัฒนาระบบของตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้ผู้ใช้บริการนั้นยอมรับในการให้บริการเมื่อถึงวันนั้นเราก็สามารถที่จะขึ้นราคาค่าบริการได้โดยที่ผู้บริโภคก็เต็มใจด้วย  nax